กำหนดทิศของบ้านอย่างไรให้เหมาะสม

กำหนดทิศของบ้านอย่างไรให้เหมาะสม 

ในการสร้างบ้านสักหลังหนึ่งต้องอาศัยความใส่ใจและความพิถีพิถันในรายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบคอบ นอกจากเรื่องของทำเลและสภาพแวดล้อมรอบตัวบ้านแล้ว ทิศทางลมและแสงแดดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เจ้าของบ้านควรคำนึง ไม่ใช่แค่เรื่องของความเชื่อหรือฮวงจุ้ยเท่านั้น แต่ทิศทางลมและแสงแดดยังมีผลต่อการอยู่อาศัยโดยตรง บ้านจะร้อนหรือร่มเย็นอยู่สบายล้วนแล้วขึ้นอยู่กับการกำหนดทิศทางบ้านอย่างถูกต้องทั้งสิ้น

ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการกำหนดทิศทางบ้าน เรามาทำความเข้าใจก่อนว่าสำหรับประเทศไทยเราแล้ว แสงแดดจะขึ้นที่ทิศตะวันออก เลื่อนมาทางทิศใต้ แล้วจึงไปตกที่ทิศตะวันตก ดังนั้น ทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้จะเป็นทิศที่ร้อนที่สุดเพราะโดนแดดในช่วงบ่าย ส่วนทิศเหนือจะยังคงได้รับแสงแดด แต่จะไม่โดนแดดตลอดทั้งวัน ส่วนลมประจำของประเทศไทยจะมีลมตะวันตกเฉียงใต้ในฤดูร้อน (พฤษภาคม-ตุลาคม) และลมตะวันออกเฉียงเหนือในฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) กล่าวคือ ลมส่วนใหญ่จะพัดมาจากทิศใต้ และมีลมพัดมาจากทิศเหนือเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้งนี้ การเลือกตำแหน่งห้องก็ควรเลือกให้สอดคล้องกับทิศทางแสงแดดและทิศทางลม โดยมีแนวทางดังนี้

• ห้องนอน

การวางตำแหน่งห้องนอนที่เหมาะสมสามารถทำได้ 2 ทิศ ได้แก่ ทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ในยามเช้า ช่วยกระตุ้นให้ตื่นนอนโดยอัตโนมัติ และทิศเหนือ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทำงานช่วงกลางคืนหรือทำงานกะดึก เพราะทิศเหนือจะไม่โดนแดดตลอดทั้งวัน สามารถนอนได้ยาวนาน อีกทั้งยังเป็นทิศที่ได้รับลมเย็น ๆ ในช่วงหน้าหนาว

• ห้องน้ำ

ทิศที่เหมาะสมสำหรับห้องน้ำ คือ ทิศตะวันตกหรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นทิศที่ได้รับแดดตรง ๆ จึงสามารถช่วยขับไล่ความอับชื้น ฆ่าเชื้อโรค ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ นอกจากนี้ ยังควรวางตำแหน่งห้องน้ำให้อยู่ริมด้านนอกของตัวบ้านและไม่อยู่ในทิศเหนือลมเพื่อป้องกันไม่ให้ลมพัดเอากลิ่นไม่พึงประสงค์ให้โชยเข้าสู่ตัวบ้านหรือห้องอื่น ๆ ได้

• ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น

เป็นหนึ่งในห้องที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับบ้าน ทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นทิศที่เหมาะสำหรับห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น เพราะเป็นทิศที่ไม่โดนแสงแดดในยามบ่าย ทำให้ไม่ร้อนในช่วงกลางวัน สามารถนั่งพักผ่อน ทำกิจกรรมสบาย ๆ ได้ตลอดทั้งวัน

• ห้องทำงาน

ห้องทำงานสามารถอยู่ได้ทั้งทิศเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะเป็นทิศที่แดดบ่ายส่องไม่ถึง และสามารถเปิดหน้าต่างรับลมเย็นที่พัดผ่าน จึงสามารถนั่งทำงานได้ทั้งวันโดยที่ไม่ร้อนและไม่มีแสงแดดจ้ารบกวนจนเกินไป

• ห้องครัว

ห้องครัวเป็นห้องที่มีการใช้งานค่อนข้างหนัก จึงควรได้รับแสงแดดบ้าง ทิศห้องครัวที่เหมาะสม ได้แก่ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพราะเป็นทิศที่ได้รับแสงในปริมาณที่พอเหมาะ หลีกเลี่ยงการวางตำแหน่งในทิศใต้ เนื่องจากเป็นทิศที่มีลมประจำพัดผ่าน อาจทำให้กลิ่นต่าง ๆ โชยไปยังห้องอื่นได้

• ห้องรับประทานอาหาร

ส่วนใหญ่นิยมวางผังไว้ติดกับห้องครัวเพื่อความสะดวกในการใช้งาน โดยทิศที่เหมาะสมสำหรับห้องรับประทานอาหาร คือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสามารถเปิดหน้าต่างรับลมจากทางทิศใต้เพื่อช่วยในเรื่องของการระบายอากาศ ช่วยให้ห้องรับประทานอาหารมีความโปร่ง โล่ง 

• พื้นที่ซักล้าง

พื้นที่ซักล้างนิยมใช้สำหรับซักผ้าและตากผ้า ดังนั้น เป็นการดีที่สุดที่จะตั้งอยู่ทางทิศใต้หรือทิศตะวันตกที่ได้รับแสงแดดโดยตรง ซึ่งจะทำให้ผ้าแห้ง ไม่อับ และเป็นการขับไล่ความชื้นจากการซักล้างต่าง ๆ ช่วยป้องกันปัญหาเชื้อรา ตะไคร่น้ำ แต่หากตั้งอยู่ในทิศที่ไม่โดนแดดเลยอาจทำให้ต้องไปตากผ้าที่บริเวณอื่นแทน นอกจากจะไม่สะดวกแล้ว ยังทำให้บ้านดูไม่เป็นสัดส่วน ไม่น่ามองได้

• ที่จอดรถ
  ควรตั้งอยู่ในทิศที่ไม่มีลมผ่านเพื่อป้องกันไม่ให้ลมพัดเอาไอเสียจากรถยนต์เข้าสู่ตัวบ้านได้ เช่น ทิศตะวันออกเฉียงใต้หรือตะวันตกเฉียงเหนือ

Conventure บริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำ พร้อมดูแลคุณตั้งแต่ขั้นตอนการให้คำปรึกษาไปจนถึงการขออนุญาตก่อสร้างบ้านอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ออกแบบผังและกำหนดทิศของบ้านอย่างเหมาะสม และมีทีมงานสถาปนิก วิศวกร ที่ทำหน้าที่ในการออกแบบบ้านและควบคุมการก่อสร้าง พร้อมด้วยทีมงานก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง จึงทำให้การทำงานมีมาตรฐาน พร้อมส่งมอบบ้านสวยพร้อมอยู่ให้กับคุณ ให้คุณได้บ้านสวย แข็งแรง คุ้มค่าในงบประมาณที่พึงพอใจ พร้อมรับประกันโครงสร้างอีกด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel: 02 046 0300-3  ต่อ 11

Line ID: @conventure (มี @ นำหน้า)

Link: https://www.conventure.co.th/